ศาลอุทธรณ์กระบี่ ตัดสินประหารชีวิต บังฟัตและแก๊ง คดีฆ่ายกครัว 8 ศพ

ศาลอุทธรณ์กระบี่ ตัดสินประหารชีวิต บังฟัตและแก๊ง คดีฆ่ายกครัว 8 ศพ

บังฟัตฆ่ายกครัว – จากคดีสะเทือนขวัญเมื่อปี 2560 บังฟัดและพวกก่อเหตุฆาตกรรมโหดยกครัว 8 ศพ  ที่เกิดเหตุ คนร้ายแต่งกายชุดลายพรางบุกเข้าบ้านพักของนายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี หรือผู้ใหญ่บัติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แล้วฆ่าสมาชิกในครอบครัว 8 ศพ และบาดเจ็บอีก 3 ราย ในจำนวนผู้ตายมี ด.ญ 3 ราย อายุเพียง 4 ขวบ 8 ขวบ และ 12 ปีรวมอยู่ด้วย

คืบหน้าล่าสุด วันที่ 9 ก.ค. ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ที่ศาลจังหวัดกระบี่ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-6 ได้แก่

1.นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต อายุ 41 ปี 2.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ (ม่อน) อายุ 36 ปี 3.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ (เลาะห์) อายุ 30 ปี. 4.นายอรุณ ทองคำ (กี้ร์) อายุ 29 ปี 5.นายประจักษ์ บุญทอย (จักร์) อายุ 36 ปี 6.นายธนชัย จำนอง (โกบ) อายุ 41 ปี  ส่วนจำเลยที่ 7 จากจำคุก 1 ปี 9 เดือนเป็นประหารชีวิต ส่วนนางชลิดา สังข์โชติ จำเลยที่ 8 ภรรยาบังฟัต จำคุก 12 เดือนตามศาลชั้นต้น

ทั้งนี้ ศาลให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมรวมกันกว่า 5 ล้านบาท

“ชิน ชินวุฒ” เฉือนชนะคะแนน “ฮั่น อิสริยะ” ในศึก 10 Fight 10 ช่อง 23 Workpoint ผ่านไปอีกหนึ่งคู่สำหรับศึก 10 Fight 10 ที่นำเหล่าดารานักแสดงมาขึ้นสังเวียนต่อยกันจริงๆ โดยครั้งนี้เป็นคู่ของ “ฮั่น อิสริยะ” ปะทะเดือดเพื่อนซี้ “ชิน ชินวุฒ” คู่นี้ต้องบอกเลยว่า เขาใช้ถ้อยคำบัฟกันมาตั้งแต่เริ่มจับคู่ ต่างคนต่างสาดสงครามน้ำลายใส่กัน

เกมนี้ดูเหมือนว่า ชิน จะได้เปรียบกว่าในเรื่องของความเร็วและทักษะเชิงมวยเพราะเคยเป็นทหารมาก่อน ออกหมัดได้ไวกว่า มีการหลบหลีกที่ดีกว่า ส่วนของ ฮั่น นั้นจะได้เปรียบในเรื่องของรูปร่างที่ใหญ่และหนากว่า การออกหมัดที่หนักหน่วงและรุนแรงกว่า แต่ทว่าจะเสียเปรียบในเรื่องของความเร็ว

จบสามยก หลังจากออกหมัดใส่กันแบบไม่ยั้งและไม่มีใครสามารถน็อคใครได้ จึงต้องตัดสินกันด้วยคะแนนจากคณะกรรมการ โดยคะแนนการชกครั้งนี้ออกมาเป็นเอกฉันท์ โดยกรรมการทั้งสามท่านให้คะแนนออกมาเท่ากันทั้งหมดที่ 29 ต่อ 28 และเป็นมุมขาว ชิน ชินวุฒที่เอาชนะฮั่น อิสรยะไปได้ จบไปด้วยความสวยงามของมิตรภาพระหว่างทั้งคู่

จำเลยทั้ง 6 แบ่งสัดส่วนการรับประกันภัยตามลำดับ โดยกรมธรรม์ประกันภัยมีข้อยกเว้นความรับผิดว่า การประกันภัยไม่คุ้มครองความเสียหายอันเป็นผลโดยตรงหรือโดยอ้อมมาจาก หรือสืบเนื่องมาจากการก่อความไม่สงบของประชาชนถึงขนาดลุกฮือต่อต้านรัฐบาล การกบฏ การปฏิวัติ การยึดอำนาจการปกครองโดยทหาร หรือการก่อการร้ายโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคล

ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการผู้ก่อการร้ายที่ใช้กำลังอย่างรุนแรงเพื่อผลทางการเมืองและรวมถึงการใช้กำลังอย่างรุนแรงเพื่อสร้างความหวาดกลัวแก่สาธารณชนตามกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน

เศรษฐีอินเดียช่วยอุ้มท่องเที่ยวไทย หลังนักท่องเที่ยวจีนหด

ภูเก็ต – เมื่อวันที่ 7 ก.ค. เว็บไซต์ bloomberg ได้เผยแพร่บทความแสดงสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยล่าสุดที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีนลดลง ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดียกำลังเพิ่มขึ้น โดยมาทดแทนและเติมเต็มนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป นับตั้งแต่เหตุการณ์เรือฟินิกซ์ล่มที่ภูเก็ตเมื่อปีก่อน

ในทางตรงกันข้ามนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมีอัตราเติบโตขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงมากขึ้น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า และที่สำคัญที่สุดคือการที่ชนชั้นกลางอินเดียมีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น

การขยายตัวอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลางของประชาชน 1.3 พันล้านคน ทำให้ทางการไทยต้องยกระดับการคาดการณ์ของนักท่องเที่ยวอินเดีย โดยคาดว่าชาวอินเดียอย่างน้อย 10 ล้านคนจะมาเที่ยวไทยในปี 2571 ซึ่งเพิ่มขึ้นห้าเท่าจากยอดของปีที่แล้ว เส้นทางการเติบโตแบบนั้นจะคล้ายกับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 800,000 คนในปี 2551 เป็นมากกว่า 10 ล้านคนในปีที่แล้ว

แม้ว่าจีนจะยังคงเป็นตลาดที่สำคัญ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคตข้างหน้า ขณะเดียวกันอินเดียกำลังจะกลายเป็นตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนถึง 17% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนร้อยละ 28 ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด โดยมีชาวอินเดียอยู่ที่ 4% แต่ภายในสิบปีข้างหน้า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเพิ่มขึ้นถึงประมาณร้อยละ 15 ของทั้งหมดขณะที่ชาวจีนคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึงประมาณร้อยละ 30

ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีนอาจลดลงในปีนี้จากปี 2018 เนื่องจากเงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท นั่นอาจขัดขวางนักท่องเที่ยวชาวจีนที่คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น หรือพวกเขาใช้จ่ายน้อยลงเมื่อมาท่องเที่ยว

GoAirlines สายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของอินเดียปัจจุบัน เชื่อมโยงเมืองอินเดียสามเมืองเข้ากับภูเก็ต และวางแผนที่จะเพิ่มอีกเจ็ดเมือง ขณะที่ ThaiAirAsia สายการบินต้นทุนต่ำมีอัตราการเติบโต 20% ของจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างอินเดียและไทยในไตรมาสแรกปี 2562 เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า มีการให้บริการเที่ยวบิน 47 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากกรุงเทพไปยังเก้าเมืองของอินเดียและมีแผนจะเพิ่มจุดหมายเพิ่มเติม

คาดว่าในอนาคต อินเดียจะแซงหน้าจีนในฐานะประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในรอบแปดปี และการคาดการณ์การเติบโตของชนชั้นกลางที่จะขยายตัว จะทำให้โรงแรมไทยเห็นแสงสว่างในอนาคต